Page 11 - เพชรราชภัฏ - เพชรล้านนา ประจำปี 2565
P. 11
ค ำประกำศเกียรติคุณ
นำยอุทัยย์ กำญจนคูหำ
เพชรรำชภัฏ – เพชรล้ำนนำ สำขำศิลปะ ด้ำนหัตถกรรม
นำยอทัยย์ กำญจนคูหำ ปัจจุบันอายุ ๗๒ ปี เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๓
ุ
ณ อ าเภอเมือง จังหวัดล าพูน สมรสกับนางอ าไพ กาญจนคูหา มีบุตร ๒ คน ธิดา ๑ คน
ุ
นายอทัยย์ กาญจนคูหา เข้าสู่วงการเซรามิค เมื่ออายุได้ ๔๐ ปี โดยไม่มีความรู้เกี่ยวกับ
เครื่องปั้นดินเผา ทั้งในเรื่องของดิน สูตรเคลือบ การปั้นขึ้นรูปต่างๆ ไม่ว่าทางด้านจิตรกรรม ประติมากรรม
ี
มีเพยงใจรัก จึงท าให้ก้าวแรกมีความยุ่งยากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เพราะไม่สามารถเข้าไปเรียนรู้หรือค้นคว้า
ข้อมูลจากแหล่งความรู้ได้เช่นในปัจจุบัน ประกอบกับหนังสือและต าราในขณะนั้นส่วนใหญ่จะเป็น
ภาษาต่างประเทศ รวมถึงสูตรเคลือบต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นความลับของแต่ละโรงงาน จึงท าให้นายอทัยย์ กาญจนคูหา
ุ
ต้องเรียนรู้ด้วยการศึกษาจากผู้รู้ในสถาบันการศึกษา และการทดลองท าในลักษณะการลองผิดลองถูก ต่อมา
่
ุ
นายอทัยย์ ได้อานหนังสือเครื่องปั้นดินเผาน้ าเงินขาวของจีน ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องถ้วยในราชวงศ์ต่าง ๆ
ุ
ท าให้ นายอทัยย์ หวนคิดถึงถึงเครื่องถ้วยของไทยโบราณ จากจุดนี้เองได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ นายอทัยย์
ุ
ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของน้ ายาเคลือบโบราณอย่างจริงจัง พบว่า วัตถุส าคัญที่จะเอามาผสมเป็นน้ ายาเคลือบนั้น
จะต้องเป็นขี้เถ้าไม้ และขี้เถ้าไม้นั้นจะต้องได้มาจากการเผาไม้รกฟาหรือไม้ก่อตาหมู จึงท าให้ได้ของสีน้ ายาเคลือบ
้
เป็นสีเขียวเหมือนสีหยก ซึ่งกว่าจะได้สูตรน้ ายาเคลือบที่เสถียร นายอุทัยย์ ต้องใช้เวลาในการทดลองเพื่อพัฒนาสูตร
เป็นเวลากว่า ๕ ปี แต่เนื่องจากขี้เถ้าไม้ซึ่งเป็นส่วนประกอบส าคัญของสูตรน้ ายาเคลือบดังกล่าว ต้องแลกมาด้วย
การตัดไม้ท าลายป่า ดังนั้น นายอทัยย์ จึงได้น าเอาเศษไม้ต่าง ๆ ซึ่งเป็นวัสดุในท้องถิ่นมาเผาแล้วน าเอาขี้เถ้า
ุ
้
มาทดลองเป็นส่วนผสมในสูตรน้ ายาเคลือบ พบว่า ขี้เถ้าที่สามารถน ามาทดแทนไม้รกฟาหรือไม้ก่อตาหมูได้ดีที่สุด
คือ “ขี้เถ้าจากไม้ล าไย”
เพชรราชภัฏ - เพชรล้านนา ประจำปีพุทธศักราช 2565 | 7