Page 32 - เพชรราชภัฏ-เพชรล้านนา ประจำปี 2566
P. 32

๒๖

              ผลงำนโดดเด่นมีเอกลักษณ์เป็นที่ยอมรับ



                                                  ฟ้อนเทวอำรักษ์ขำเท้ำทั้ง ๔


                                                    ิ
                      แนวคิดในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำน: พธีการขึ้นท้าวทั้งสี่ ตามความเชื่อของคนล้านนา เพอสร้างความสิริมงคล
                                                                                             ื่
              ในการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ น ามาสู่กรอบแนวคิดในเรื่องการสร้างสรรค์ชุดการแสดง โดยน าความเชื่อเรื่องการบูชา
              ขึ้นท้าวทั้งสี่ ซึ่งใช้ผู้แสดงสมมุติตนองเป็นเทพต่าง ๆ ทั้ง ๖ องค์ โดยแต่งกายตามสีของธงที่เป็นสัญลักษณ์

                                    ้
              ใช้ปักบนกระทง และผู้ฟอนประกอบอก ๘ คน โดยการแสดงที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ในครั้งนี้ ใช้ชื่อชุดการแสดง
                                                ี
              “ฟ้อนเทวาอารักษ์ขาท้าวทั้งสี่”

                                 ิ
                      เทคนิคและวธีกำรที่ใช้ในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำน: ผู้สร้างสรรค์มีแนวความคิดในการสร้างสรรค์การแสดงชุด
              “ฟ้อนเทวาอารักษขาท้าวทั้งสี่” โดยมีแรงบันดาลใจจากการศึกษาเรื่องการน าความเชื่อของคนล้านนา มาเป็นพื้นฐาน
                              ์
              หลักในการสร้างงาน โดยน าเอาความเชื่อเรื่องการ “ขึ้นท้าวทั้งสี่” น ามาสร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบงาน

              ด้านนาฏศิลป์ ด้วยการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากการสังเกต การสัมภาษณ์ และการเข้าร่วมพธีกรรม จากนั้นน ามา
                                                                                            ิ
              วิเคราะห์ สังเคราะห์จนน ามาซึ่งการแสดงชุดดังกล่าวมีความน่าสนใจ และมีความพเศษ คือ การแสดงชุด
                                                                                          ิ
                 ้
                                                                                                    ื่
              “ฟอนเทวาอารักษ์ขาท้าวทั้งสี่” ซึ่งผู้สร้างสรรค์ได้แบ่งการแสดงออกเป็น ๔ ช่วง ได้แก่  ช่วงที่ ๑ บทออกะโลงหรือ
              กลอนสี่สุภาพ ประกอบด้วย บทร้องที่มีเนื้อร้อง หมายถึง การอัญเชิญเทพท้าวทั้งสี่ให้ทรงมาช่วยปกปักรักษาคุ้มครอง
              ซึ่งผู้สร้างสรรค์ก าหนดผู้แสดง จ านวน ๖ คน ซึ่งมีความหมายถึงเทพทั้ง ๖ องค์ ได้แก่ พระอนทร์ ท้าวธตรฐ
                                                                                                ิ
              ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูฬปักษ์ ท้าวกูเวร และพระแม่ธรณี  โดยยืนประจ าแท่นตามต าแหน่งและฟอนร าพร้อมกัน
                                                                                                 ้
                                   ั
              ตามบทร้อง ช่วงที่ ๒ “อญเชิญ” เพลงจังหวะช้า ด้วยการย่ าเท้าตามจังหวะเพลง โดยนักแสดงหญิงจ านวน ๘ คน
                ั
                                           ้
              อนหมายถึงมวลมนุษย์ทั้ง ๘ ทิศ ฟอนร าพร้อมกัน ทั้งนี้ผู้สร้างสรรค์ใช้ท่าร าแบบนาฏศิลป์ล้านนา เช่น ท่าบิดบัวบาน
              ท่าวาดมือบน ท่าไหว้  ท่าชูดอกไม้ค า และท่าร าแบบนาฏศิลป์ไทย เช่น ท่าจีบส่งหลัง ท่าจีบม้วนคลายมือ ท่ายกเท้า

              หน้า และท่าวิ่งซอยเท้า ช่วงที่ ๓ “บูชา” เพลงจังหวะช้าช่วงที่ ๒ ใช้รูปแบบการแปรแถวในต าแหน่งต่าง ๆ ได้แก่
              แถวปีกกาคว่ า แถววงกลม แถวรูปโค้ง แถวหน้ากระดานสองแถว เพอแสดงให้เป็นกระบวนท่าของผู้แสดงเทพทั้ง
                                                                         ื่
                                   ั
                                                                                    ้
              ๖ องค์ และช่วงที่ ๔ “ฮกษา” เพลงจังหวะเร็ว โดยผู้สร้างสรรค์ก าหนดให้ใช้ท่าฟอนที่นักแสดงหญิงสื่อให้เห็นถึง
              ความรื่นเริง และเป็นการเฉลิมฉลองปิติยินดีที่เทพทั้ง ๖ ได้เสด็จมาประทับยังแท่นท้าวทั้งสี่ เพื่อปกปักรักษา
                                                                               ื้
                                                                                                      ั
                      ดนตรีประกอบกำรแสดง: โดยประพนธ์บทร้องเป็นภาษาถิ่นพนเมืองภาคเหนือ ผู้ประพนธ์ได้น า
                                                        ั
                                                                                  ั
                                                       ั
              การขับกะโลง หรือกลอนสี่สุภาพ ซึ่งเป็นค าประพนธ์ระดับสูงของล้านนามาประพนธ์เป็นบทร้องในช่วงแรก จ านวน
                                                                                                           ั
              ๒ บท ประกอบการสีสะล้อ มีความหมายถึง การอญเชิญเทพทั้ง ๖ มายังแท่นท้าวทั้งสี่ ในช่วงที่ ๒ ผู้ประพนธ์
                                                          ั
              ได้ประพนธ์ท านองเพลง โดยการบรรเลงเครื่องดนตรีวงสะล้อ และซึง ในอตราจังหวะ 2 ชั้น เพอเป็นการบูชาและ
                      ั
                                                                             ั
                                                                                              ื่
                                                                                                           ั
                                                                                          ั
              ต้อนรับเทพทั้ง ๖ องค์ และช่วงที่ ๓ ใช้วงปาดเมือง (ปี่พาทย์) จ านวน ๒ รอบ และประพนธ์ท านองเพลงในอตรา
              จังหวะชั้นเดียว จ านวน  ๒ รอบ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ของพิธีกรรมการขี้นท้าวทั้งสี่
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37