Page 164 - เพชรราชภัฏ-เพชรล้านนา ประจำปี 2566
P. 164
๑๕๘
อีกเลย ดังนั้น การสร้างเครือข่ายยุทธศิลป์ล้านนา คือ จุดเริ่มแห่งการสร้างระบบที่เชื่อว่าจะส่งผลที่ยั่งยืนในอนาคต
ี
หากว่าส าเร็จดังจิตเจตนา ในอกแง่มุมหนึ่งโอกาสที่จะล้มเหลวก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของ
ความพยายามที่จะผลักดันให้เกิดการรวมตัวกัน บ่อยครั้งที่กระบวนการริเริ่มรวมตัวได้ก่อรูปก่อร่างขึ้น
ื่
แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปการงานและภารกิจด้านอนที่ชัดเจนกว่าจะพรากคนออกจากกันจนสลายตัวกันไปในที่สุด
ครั้งนี้ คณะผู้ริเริ่ม คือ คนที่ผ่านร้อนหนาวในแวดวงคนท างานด้านสืบสานศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะบุคลากร
ในสายวิชาเจิงลายล้านนา นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการและคณะที่ปรึกษาผู้ผ่านประสบการณ์ครอบคลุมทุกด้าน
้
เป็นผู้ที่เห็นพองต้องกันที่จะสานต่อการงานที่คั่งค้างเอาไว้ จึงรวมกันเป็นเครือข่ายที่รักษาจุดร่วมสงวนจุดต่าง
มีช่องว่างระหว่างกันแต่เชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่อยู่ในสายเจิงศึกลายหาญ สายเจิง
ื่
้
ฟอนลายงาม สายแห่ประโคม สายศาสตราวุธ สายวิชาการ สายเจิงเพอสุขภาพทางกายและจิตใจ เป็นต้น
การท างานคงมิใช่จะส าเร็จเสร็จได้ในข้ามคืน มีภารกิจที่หลากหลายและมีบทเรียนเป็นเครื่องเตือนใจ
ั
ตระหนักดีถึงภารกิจอนยากและยาวไกล ถึงการแบกรับความคาดหวังและการรับมือกับบททดสอบ ความส าเร็จ
ในหนึ่งครั้งจะไม่เกี่ยวกับครั้งต่อไป ความผิดพลาดแม้น้อยนิดจะส่งผลสะเทือนอย่างประมาณไม่ได้ แต่ตัดสินใจ
อย่างแน่วแน่แล้ว จึงตั้งสัจจะวาจาและลงนามร่วมกัน มุ่งสู่ความเป็นน้ าหนึ่งใจเดียวกัน โดยลงความเห็นว่า หนังสือ
ี
ลงนามของเราจะไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่เครือข่ายเติบโตเราจะต่อเติมชื่อผู้ลงนามออกไปอกเรื่อย ๆ นี่คือ
พนธสัญญาอย่างหนึ่ง มองไปข้างหน้าอย่างท้าทายร่วมกัน ศิลปะและภูมิปัญญาด้านเจิงลายล้านนาที่รวมกันเป็น
ั
วิชาแห่งศาสตราวุธและยุทธศิลป์ล้านนานั้นต้องตั้งมั่นอยู่ร่วมยุคสมัย ผดุงไว้ซึ่งคุณธรรมและจริยธรรม มีบริบท
ทางสังคมและวัฒนธรรม มีหนทางส าหรับผู้มุ่งมั่นจริงจัง แบ่งปันองค์ความรู้อย่างแพร่หลายอย่างมีระบบแบบแผน
เครือข่ายยุทธศิลป์ล้านนาเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้วเมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๙ หากแต่จะด าเนินการ
เช่นไรขึ้นอยู่กับการช่วยกันสร้างสรรค์ หลาย ๆ ท่านจังคงจับจ้องมองดูอยู่อย่างสงสัยสนใจใคร่รู้ความเป็นมาเป็นไป
จึงขอเรียนให้ทราบเป็นเบื้องต้นว่า คณะผู้ริเริ่มมุ่งหวังวางรากฐานที่มั่นคงเพออนาคตข้างหน้า ศาสตร์แขนงนี้
ื่
ใช่ว่าใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือสายใดสายหนึ่งจะด าริคิดท าเองได้เพยงล าพง มีเพยงการรวมตัว
ั
ี
ี
ื่
ที่เหมาะสมเท่านั้นที่จะสร้างพลังขับเคลื่อนที่มีความหมายและยิ่งใหญ่ การท างานที่เหนื่อยยากนี้ มิใช่เพอใคร
ี
กลุ่มใด หรือสายใดสายหนึ่ง เพราะนับแต่นี้มีเพยงหนึ่งเดียวคือเครือข่าย และเครือข่ายเองไม่ได้ท างาน
เพอผลประโยชน์ของเครือข่าย แต่จะปฏิบัติหน้าที่เพอสังคมโดยรวม เพราะศาสตร์แขนงนี้ คือ มรดกของชนชาติ
ื่
ื่
ของแผ่นดิน และถึงที่สุด คือ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกด้วยเช่นกัน