Page 161 - เพชรราชภัฏ-เพชรล้านนา ประจำปี 2566
P. 161
๑๕๕
จากกระแสน้ าที่เชี่ยวกราก วันนี้ไปถึงอนาคตข้างหน้าในมุมมองส่วนตัวอยากจะน าเสนอซึ่งอาจผิดหรือถูกได้
็
ั
ตามวิสัยมนุษย์ อยากจะแบ่งปันความคิดอานเล่าสู่กันฟง เพราะแม้ยังก้าวไปไม่ถึงกได้เรียนรู้ว่าก าลังท าอยู่ทุกขณะ
่
ประเด็นเรื่องเจิง นายศรัณ กล่าวว่า หากไม่ท าอะไ รก็ไม่ได้มีใครว่า มันก็จะเป็นอยู่เป็นไปอย่างนั้น ทุกคนก็ล้วนใช้
ใจรักเป็นที่ตั้ง มีหน้างาน มีแผนการเป็นของตัวเอง ล้วนรักและอยากสืบทอดสืบสานเผยแพร่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน
เรื่องหัวใจเอามาเปรียบเทียบกับการกระท า ค าพด และภาพลักษณ์ไม่ได้ ทุกคนมีปัจจัยมีปัญหาบีบคั้นแตกต่างกัน
ู
หลายคนอยากท างานเรื่องเจิงให้เต็มก าลัง แต่ภาระข้างหลังอย่างการงาน ครอบครัว เศรษฐกิจรุมเร้าอยู่ก็ไม่สะดวก
นายศรัณ ต้องการบอกกล่าวให้รู้ว่า การปฏิบัติการใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องเจิงของนายศรัณ เกิดจากวิสัยทัศน์ส่วนตัว
ที่อาจก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปถึงผู้คน วงการ ผู้มีอานาจวาสนา ชนชั้นปกครอง ประชาชนที่มีใจรัก
ศิลปะวัฒนธรรม และมีความเชื่อความศรัทธาที่จะใช้ศิลปวัฒนธรรมน าสังคม นายศรัณ กล่าวว่า การรู้ในศักยภาพ
ของตนเอง เมื่อมีใจและมีไฟ ต้องรีบตีเหล็กเมื่อไฟยังแดง ผมเป็นปุถุชนคนธรรมดา วันหนึ่งไฟก็จะมอดดับ
ื่
ก่อนจะมอด ขอให้ได้ท าหน้าที่เป็นเชื้อไฟให้เตาอน ๆ บ้างก็ยังดี โดยเน้นที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ พยายามหา
ื้
ตัวต่อยอด ตัวที่ไม่ต้องยึดโยงกับนโยบายใด ๆ ที่เออมไปแตะไม่ถึง มองไปที่ตลาดโลก ที่นั่นมีความต้องการอยู่
ื่
นายศรัณ ไม่ได้มองตลาดเพอผลประโยชน์ตน ลูกศิษย์ต่างชาติต้องมีตัวต่อยอดเช่นกัน และพวกเขาต้องเชื่อมโยง
ื่
กับจิตวิญญาณเดิม อนาคตอีกไม่นานเยาวชนที่ดันทุรัง พวกที่รั้นเอาใจน าสมอง พวกเขาจะมีตัวต่อเพอเชื่อมโยงกับ
โลกภายนอกผ่านระบบจารีตประเพณี ซึ่งจะเป็นเครื่องการันตีตัวตน ตลาดโลกต้องการตัวพวกเขา การท างาน
ประสานกันข้ามแดนจะเกิดขึ้น ในขณะที่ภายในท้องถิ่นจะถูกกระตุ้นเร้าอย่างหนักหน่วง เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์
การตั้งค าถาม ตอบค าถาม ต่อต้าน ยื้อยุด เขย่า และสุดท้ายยุคใหม่จะเกิดขึ้น ก่อนจะถึงวันนั้นบนถนนสายนี้
จะมีการเกิดและตายในขณะที่มีลมหายใจอยู่ร่ าไป
ชีวิตปัจจุบัน ควำมมุ่งหวัง และสิ่งที่ต้องกำรจะฝำกถึงอนุชนรุ่นต่อไป
ื้
ปัจจุบัน นายศรัณ เปิด “บ้านสล่าเจิงล้านนา” อาเภอแม่ริม เป็นพนที่สอนวิชาเจิงให้แก่ผู้คนที่สนใจ และ
เป็นครูสอนเจิงที่โฮงเฮยนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา โดยปรับรูปแบบการเรียนให้เขากับยุคสมัย พฒนาไปพร้อมกับ
ั
ี
ั
กาลเวลา เพราะการพฒนาและการปรับตัวเป็นสิ่งส าคัญที่ท าให้ภูมิปัญญายังมีคงมีลมหายใจ เจิงเป็นศาสตร์วิชา
ื่
ที่ผู้ชายล้านนาทุกคนต้องเรียน เพราะสถานการณ์บ้านเมืองรบทัพจับศึกบ่อยครั้ง บ้างก็ใช้เพอป้องกันตัวเอง
หากเปรียบการฟอนเจิงเป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นชาย แล้วผู้หญิงจะฟอนเจิงได้ไหม ตามบันทึก
้
้
้
ทางประวัติศาสตร์ล้านนา ไม่มีการห้ามไม่ให้ผู้หญิงฟอนเจิง บางทีผู้หญิงเป็นนักรบหรือผู้น าทัพด้วยซ้ า แต่ด้วย
บริบทสมัยก่อนไม่ค่อยเป็นที่นิยม ผู้ชายเรียนเยอะเพราะได้ใช้ ไปเป็นทหารบ้าง ใช้ป้องกันตัวบ้าง ปัจจุบันนี้
สอนให้ผู้หญิงฟอนเจิงได้ บางหลักสูตรผู้หญิงเรียนเยอะกว่าผู้ชายด้วย นายศรัณ เติบโตมาท่ามกลางวัฒนธรรม
้
ล้านนา ผ่านยุครุ่งเรืองของเจิงจวบจนเจิงได้รับความนิยมน้อยลง เมื่อไม่กี่สิบปีนี้เอง เจิงถูกลดบทบาทความนิยมลง
เพราะค่าความนิยมของคนเปลี่ยนไป เมื่อบ้านเมืองดีขึ้น ตัวบทกฎหมายเข้มงวดขึ้น ชุมโจรอะไรต่าง ๆ น้อยลง